เราควรตรวจเช็กบ้านมือสองหลังนั้นให้แน่ใจ ว่าเขารีโนเวทมาให้ได้มาตรฐานหรือไม่ หากไม่ได้ ArkcoThailand แนะนำว่าควรไปเลือกบ้านที่ถูกกว่า และนำมารีโนเวทเองจะคุ้มค่าและควบคุมมาตรฐานได้ดีกว่า
หลังจากที่ ArkcoThailand ได้พูดถึงการตรวจโครงสร้างบ้านมือสอง ไปในบทความที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ โครงสร้างหลักอย่างเสาเข็มบ้าน โครงสร้างคานบ้าน โดยการเช็กจากรอยร้าว พร้อมนำเสนอวิธีแก้ในขั้นต้นให้แล้ว ใครยังไม่ได้อ่าน ให้ย้อนหลับไปอ่านก่อนนะ ArkcoThailand ขอบอกว่าการตรวจโครงสร้างบ้านมือสองสำคัญมาก ๆ เลย
Table of Content
หลังจากตรวจสอบโครงสร้างบ้านมือสองแล้ว หากบ้านหลังนั้นถูกรีโนเวท หรือปรับปรุงบางอย่าง บ้านมือสองหลังนั้นจะมีราคาที่สูงขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย เมื่อเทียบกับบ้านที่ไม่ผ่านการปรับปรุง ซึ่งการปรับปรุงยอดนิยมเลยคือ การทำสีบ้านใหม่นั่นเอง การทำสีนั้นก็มีค่าใช้จ่ายที่เจ้าของเก่านำมารวมด้วยเพื่อที่จะตั้งราคาขายใหม่ เราจึงต้องตรวจเช็กบ้านมือสอง เพื่อใช้ในการนำมาพิจารณาคุณภาพของการทำสีอีกด้วยนะ ว่าคุ้มค่าหรือไม่ หรือทำเองคุ้มกว่า
หากเราตรวจโครงสร้างบ้านมือสองแล้วไม่มีรอยร้าวที่อันตราย แต่กลับมีผนังแตกลายงาที่อาจจะไม่กระทบต่อโครงสร้าง ซึ่งอันตรายยังน้อยกว่ารอยร้าวมาก แต่ก็ถือว่านั่นเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม
เพราะหากฝนสาดเข้าผนัง ทำให้น้ำฝนมีโอกาสซึมเข้าสู่รอยแตกลายงา เมื่อผนังกักเก็บความชื้นเอาไว้ สีก็จะลอก เมื่อสีลอกไม่มีชั้นสีป้องกัน ผนังมีโอกาสที่จะบวม และความชื้นเข้าสู่โครงสร้างหลักได้
ซึ่งสาเหตุหลักๆ ของการเกิดรอยแตกงานั้น เกิดจากการที่ช่างทำงานฉาบไม่ได้มาตรฐาน ช่างไม่มีฝีมือที่ดีพอ ทั้งการฉาบ การผสมปูน น้ำ ไม่ถูกสัดส่วน หรือจากการเลือกใช้อิฐมวลเบาที่ต่ำกว่ามาตรฐาน
มีการยืดหดตัวได้มากกว่าอิฐทั่วไป และปัญหายอดฮิตที่เป็นตัวกระตุ้นอีกอย่างคือ การทำสีบ้านไม่ได้มาตรฐาน ความหนาของชั้นฟิล์มสี ไม่เพียงพอต่อการป้องกันความชื้น
วิธีแก้ : หากผนังบ้านเกิดรอยแตกงาไม่เกิน 0.5 มิลลิเมตร สามารถใช้การอุดโป๊วเก็บตามบริเวณที่มีรอยแตกลายงาน และใช้การพ่นสีรอพื้นด้วยเครื่องพ่นสีไฟฟ้า Graco โดยให้พ่นสีรองพื้นความหนาประมาณ 30-40 ไมครอน
สามารถวัดด้วยเครื่องวัดความหนาสี Elcometer ได้หากต้องการมาตรฐานที่ดียิ่งขึ้น จากนั้นทาสีทับ หรือใช้วิธีการพ่นสีด้วยเครื่องพ่นสีไฟฟ้า Graco หากรอยแตกงานมีเยอะมากกว่า 1 จุด และต้องการความเร็วในการพ่นสีที่ดียิ่งขึ้น
หากตรวจเช็กบ้านมือสองแล้วเจ้าของแจ้งว่ามีการทำสีทั้งหลังมาแล้ว เราสามารถเช็กได้ว่า สีที่ทำทั้งหลังนั้น มีความหนาตามมาตรฐานหรือไม่ เราสามารถเช็กได้จากตาเปล่าเลยว่างานทาสีผนังบ้านนั้นเท่ากันหรือไม่
โดยปกติแล้วความหนาสีทับหน้าจะอยู่ในสัดส่วน 50 ไมครอนต่อการทาหนึ่งเที่ยว หากทาสองเที่ยวก็จะหนาอยู่ที่ราวๆ 100-110 ไมครอน ซึ่งสามารถตรวจได้ด้วยเครื่องวัดความหนาสี Elcometer หากการทาสีนั้นมีตัวเลขความหนาที่สะเปะสะปะ ไม่ตรงกันสักจุด
อาจจะถือได้ว่าเป็นการทาสีที่ไม่มีคุณภาพ มีโอกาสที่สีจะไม่อยู่ยืน หลุดลอกได้ในอนาคต ทำให้เราต้องเสียเงินทำใหม่นั่นเอง ดังนั้น เราเสียเงินทาเองตั้งแต่แรกเสียเลย ยังดีเสียกว่า
สีกันไฟ จัดว่าเป็นสีที่สำคัญมาก ในเวลาที่เกิดเหตุไม่คาดฝันอย่างอัคคีภัย สีกันที่ผ่านมาตรฐาน ISO 834 จะช่วยปกป้องไม่ให้โครงสร้างถูกทำลายโดยง่าย ขณะเกิดเหตุเพลิงไหม้ ปกติแล้ว สีกันไฟจะถูกพ่นทับระหว่าง สีรองพื้น และสีทับหน้า โดยเฉพาะโครงสร้างที่เป็นเหล็ก ควรใช้เครื่องพ่นสีไฟฟ้า Graco ในการพ่นสีกันไฟ เพราะจะสามารถปรับความหนาได้ตามมาตรฐาน
นอกจากการตรวจโครงสร้างของบ้านมือสองแล้ว ยังมีในเรื่องของการตรวจเช็กบ้านมือสองในเรื่องอื่นๆอีก โดยเฉพาะเรื่องของสี หากเป็นบ้านเก่าและมีการรีโนเวทและราคาสูงกว่าบ้านหลังอื่นๆในละแวกใกล้เคียง
เราควรตรวจเช็กบ้านมือสองหลังนั้นให้แน่ใจ ว่าเขารีโนเวทมาให้ได้มาตรฐานหรือไม่ หากไม่ได้ ArkcoThailand แนะนำว่าควรไปเลือกบ้านที่ถูกกว่า และนำมารีโนเวทเองจะคุ้มค่าและควบคุมมาตรฐานได้ดีกว่า
หากเพื่อนๆ ยังไม่ได้อ่านบทความที่แล้ว ArkcoThailand ขอให้รีบกดเข้าไปอ่านโดยไวเลย เพราะบทความที่แล้วจะพูดถึงในเรื่องของโครงสร้างหลักของบ้าน ซึ่งสำคัญมากๆ หากมองข้าม มีโอกาสที่เราจะซื้อบ้านราคาแสนแพง แล้วถล่มพังในอนาคตได้เลย!
อ่านต่อ > คู่มือซื้อบ้านมือสอง EP.1 ต้องเช็กตรวจโครงสร้างบ้านมือสองอะไรบ้าง วันนี้ ArkcoThailand พาดู
___
ท่านสามารถสั่งซื้ออุปกรณ์ เครื่องมือเตรียมผิวงาน เครื่องพ่นสี เครื่องพ่นทราย เครื่องวัดความหนาสี ได้ที่
TEL
(66) 0-2406-0716-7,
08-6351-3941,
08-9920-2257
Create at : 2023-01-10 04:21:40