5 วิธีดูแลรถในหน้าฝน ว่ามีวิธีไหนที่จะดูแลรถของเราได้บ้าง เพื่อให้รถของเราอยู่กับเราไปนานๆ
Table of Content
2 วิธีดูแลได้ทันที
3 วิธีตรวจสอบเฝ้าระวัง
สรุป
ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป ประเทศไทยจัดว่าเริ่มเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว แน่นอนว่าทุกคนคงเตรียมตัวสำหรับการเข้าฤดูนี้กันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
หรือถ้าหากยัง แนะนำให้ดูบทความนี้เลย เชื่อว่าคนรักรถหลายๆคนส่วนใหญ่คงไม่ชอบใจหน้าฝนกันอยู่แล้ว แต่ถึงอย่างนั้นหากเราต้องใช้รถสำหรับการทำงาน อย่างไรเราก็หนีไม่พ้นหน้าฝนที่นำมาซึ่งความสกปรกและเลอะเทอะของยานพาหนะของเรา แต่เราสามารถป้องกันและเฝ้าระวังก่อนได้
วันนี้ ArkcoThailand จึงขอพูดถึง 5 วิธีดูแลรถในหน้าฝน ว่ามีวิธีไหนที่จะดูแลรถของเราได้บ้าง เพื่อให้รถของเราอยู่กับเราไปนานๆ
1. หมั่นล้างรถเป็นพิเศษ
ใครที่ไม่ชอบล้างรถ ต้องบอกเลยว่าในหน้าฝนนี้รถของคุณจะเปรอะเปื้อนเป็นพิเศษ เพราะการขับรถลุยฝนจะทำให้มีคราบดำและฝุ่นโคลนมากกว่าปกติ และหากไม่รีบล้างจะค่อยๆทำลายชั้นของผิวสียิ่งนานไปจะทำให้สีหม่นหมองและรถดูเก่าลงขึ้นมากกว่าเดิมถึง 2 เท่า
แต่หากใครที่ไม่ค่อยชอบล้างรถก็ไม่ต้องกังวลไป หากสีรถของคุณมีความหม่นหมอง สามารถพ่นสีใหม่ได้ด้วยเครื่องพ่นสีไฟฟ้า Graco ระบบ Airless ที่จะให้เนื้อสีเนียน 100% พ่นได้ความหนาเท่ากันตามมาตรฐาน แต่ถ้าไม่อยากพ่นสีใหม่ล่ะก็ แนะนำว่าให้ล้างรถทันที หลังจากขับรถลุยน้ำในหน้าฝนบ่อยๆ จะเป็นการดี
2.เคลือบสีรถช่วยได้
การเคลือบสีรถไม่ว่าจะเป็นการเคลือบแก้วหรือเคลือบด้วยน้ำยาเคลือบสีก็ตามล้วนแล้วมีแต่ข้อดีทั้งนั้น เพราะการเคลือบสีรถจะทำให้รถของคุณมีชั้นฟิล์มสีหรือสารเคลือบพิเศษ ที่ช่วยป้องกันได้ทั้งรังสี UV และฝุ่นควันที่มาจากฝนอันสกปรกได้อีกด้วย
การเคลือบสีรถสามารถเคลือบได้ทั้งแบบวิธีบ้านๆ คือการเคลือบด้วยน้ำยาและผ้าเช็ดรถ หรือจะเคลือบแก้วด้วยเครื่องพ่นสีไฟฟ้า graco ระบบ Airless ที่จะให้ความหนาของสารเคลือบได้ถึง 9H ที่จะมีประสิทธิภาพในการป้องกันฝุ่นควันที่มากับฝน ทำให้รถของเราดูใหม่และสะอาด เงา อยู่ตลอดเวลาถึงแม้ว่าจะผ่านการขับลุยฝนมาก็ตาม
3.เช็คซีลยางขอบประตู
สำหรับคนที่ชอบจอดรถตากแดดในหน้าร้อนควรต้องเช็คซีลยางเป็นพิเศษ ทั้งซีลยางขอบประตูก็ดี ซีลยางตามจุดต่างๆก็ดี เพราะเมื่อเราจอดรถตากแดดจะทำให้ยางเสื่อมสภาพ และเมื่อถึงหน้าฝนซีลยางเหล่านี้ก็จะไม่สามารถป้องกันน้ำฝนได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาจจะทำให้มีน้ำฝนรั่วซึมเข้ามายังรถของเราได้
ดังนั้นหากรู้ตัวว่าจอดรถตากแดดอยู่สม่ำเสมอให้หมั่นเช็คซีลยางว่าแน่นหนาและเสื่อมสภาพหรือไม่ เพื่อที่จะพร้อมสำหรับการรับมือกับหน้าฝนได้อย่างเต็มที่
4. ตรวจสอบสนิมตามจุดต่างๆ
สนิมจัดว่าเป็นหนึ่งในปัญหาของรถยุคใหม่ๆเลยก็ว่าได้ ถึงแม้ว่าเราจะเพิ่งซื้อรถมาใหม่ก็ตาม อาจจะพบสนิมตามจุดต่างๆได้ เพราะมาตรฐานการเคลือบสนิมของแต่ละโรงงานในยุคใหม่นั้น พบว่ามีปัญหามาตั้งแต่เหตุการณ์น้ำท่วมปี 2554 ทำให้สามารถทำงานได้อย่างไม่เต็มที่
และสนิมเหล่านี้จะลุกลามได้อย่างรวดเร็วในหน้าฝนหากเราขับรถลุยฝนหรือลุยน้ำท่วม สนิมตามซุ้มล้อหรือใต้ท้องรถจะผุก่อนกลายเป็นสนิมที่ลึกยิ่งขึ้นได้อย่างรวดเร็ว หากเราเจอสนิมแม้แต่ 1 จุดก็ควรที่จะซ่อมแซมและพ่นน้ำยาเคลือบสนิมด้วยเครื่องพ่นสีไฟฟ้า graco ระบบ Airless ที่สามารถใช้ในการพ่นสารเคลือบสนิมให้กับตัวถังรถยนต์ได้อย่างมาตรฐาน และสามารถวัดค่าความหนาสีได้ ด้วยเครื่องตรวจวัดความหนาสี Elcometor เพื่อเป็นการเพิ่มความมั่นใจว่าเราได้เพิ่มชั้นป้องกันสนิมจากน้ำฝนได้ความหนาตามมาตรฐานแล้ว
5. หมั่นเช็คสภาพรถ
ในหน้าฝนนี้นอกจากจะทำให้การจราจรติดขัดแล้วยังทำให้การขับรถของเราอันตรายมากยิ่งขึ้น เพราะทัศนวิสัยนั้นจะสั้นลงทำให้ต้องขับรถให้ช้าลงและต้องระวังรอบด้านมากขึ้น
เราควรตรวจสอบรถยนต์ก่อนการนำไปใช้งานในหน้าฝน เช่น ตรวจสอบระบบเบรคว่าสามารถทำงานได้อย่างปกติหรือไม่ ตรวจสอบเครื่องยนต์ว่าสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ หากรถเราเสียกลางทางในหน้าฝนนี้คงจะทำให้เราลำบากน่าดูเชียว
เป็นอย่างไรกันบ้าง กับ Content ในวันนี้สำหรับคนรักรถ ควรเช็คและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเลยทีเดียว หากไม่อยากให้รถของคุณต้องมาโทรมในหน้าฝน รวมถึงเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุในหน้าฝน จึงควรป้องกันและระมัดระวังตาม 5 วิธีดูแลรถหน้าฝนที่ ArkcoThalind ได้แนะนำไปในข้างต้นได้เลย
ArkcoThailand เป็นผู้จัดจำหน่าย เครื่องขัดเหล็ก Montipower เครื่องพ่นสีไฟฟ้า Graco ระบบ Airless เครื่องพ่นทราย เครื่องวัดความหนาสี Elcometer
และอีกมากมาย
________________________________________________________________
ท่านสามารถสั่งซื้ออุปกรณ์ เครื่องมือเตรียมผิวงาน เครื่องพ่นสี เครื่องพ่นทราย เครื่องวัดความหนาสี ได้ที่
TEL
086-351-3941,
Create at : 2023-06-12 04:46:56