ดูแลสีรถยนต์ต้องทำอย่างไร ดูไว้หากไม่อยากทำสีใหม่

วันนี้ ArkcoThailand จะมาแชร์วิธีการ ดูแลสีรถยนต์ ให้สวยวิบวับอยู่เสมอ จะได้ไม่ต้องไปทำสีใหม่ สีรถยนต์นั้นสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา หากเราไม่ ดูแลสีรถยนต์ ให้ดีที่สุด อาจจะมีสีเพี๊ยน หมองคล้ำ มีรอยขนแมว หรือสีด่าง ไม่สวยงามเหมือนรถใหม่ อาจทำให้มองแล้วเหมือนรถเก่าๆ ไปเลยก็ได้

 

Table of Content
วิธีการดูแลสีรถยนต์
รูปแบบการทำสีรถยนต์ใหม่
สรุป

 

การมีรถยนต์เป็นสิ่งที่เหมือนฝันของใครหลายๆคน แต่ก็ต้องเข้าใจด้วยว่า การมีรถยนต์ก็เปรียบเสมือนมีลูก ถึงแม้รถยนต์จะไม่มีชีวิต แต่รถยนต์นั้นก็มาพร้อมกับภาระที่เราต้องเสียเงิน ดูแล และเอาใจใส่อยู่ตลอดเวลา 

อย่างเช่นเรื่องของสีรถยนต์ สีรถยนต์นั้นสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา หากเราไม่ ดูแลสีรถยนต์ ให้ดีที่สุด อาจจะมีสีเพี๊ยน หมองคล้ำ มีรอยขนแมว หรือสีด่าง ไม่สวยงามเหมือนรถใหม่ อาจทำให้มองแล้วเหมือนรถเก่าๆ ไปเลยก็ได้

วันนี้ ArkcoThailand จะมาแชร์วิธีการ ดูแลสีรถยนต์ ให้สวยวิบวับอยู่เสมอ จะได้ไม่ต้องไปทำสีใหม่

 

วิธีการดูแลสีรถยนต์

1. หมั่นล้างรถอยู่บ่อยๆ

การขับรถบนท้องถนนนั้น เราต้องเจอกับสิ่งสกปรกอยู่เป็นประจำ เช่น เขม่าควัน ยางมะตอย คราบสกปรก ดิน น้ำ ฝุ่น ซึ่งสิ่งสกปรกเหล่านี้ เมื่อจับตัวเข้ากับรถของเรา จะทำให้เป็นคราบเกาะ ซึ่งบางคราบเช่นเขม่าควันจะเปลี่ยนเป็นคราบมันๆ ถึงแม้เราจะมองไม่เห็นแต่เมื่อคราบพวกนี้เกาะติดนานๆ จะทำให้สีด่าง กำจัดคราบออกยากมาก ดังนั้น การเข้าคาร์แคร์ ล้างอัดฉีดอยู่สม่ำเสมอ เมื่อรู้สึกว่ารถเราไม่สะอาด จะทำให้คราบสกปรกพวกนี้หายไป ไม่เกาะติดแน่น โดยเฉพาะรถที่มองเห็นคราบได้ง่ายอย่างเช่นรถสีขาว พวกนี้จะสกปรกง่ายมากๆ หรือถ้าเรามีเวลาว่าง สามารถล้างรถเองได้ เพียงแค่ล้างและถูด้วยน้ำเปล่า ก็สามารถ ดูแลรถยนต์ ของเราได้แล้ว

2. หลังล้างรถแล้วให้เช็ดรถให้แห้ง

นอกจากการล้างรถให้สะอาดแล้ว สิ่งสำคัญอีกเรื่องหนึ่งคือ การเช็ดรถให้แห้งก่อนที่จะนำไปใช้งาน เพราะหากเราปล่อยให้รถผึ่งลมแห้งเอง จะทำให้เกิดคราบน้ำ สิ่งส่วนประกอบของน้ำมักจะทำให้สีเสียหายได้ในระยะยาว การเช็ดรถให้แห้งจึงควรถูกทำทุกครั้งหลังจากล้างรถ ซึ่งสามารถทำได้ง่ายมาก เพียงแค่ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ที่คุณภาพดีหน่อย เช็ดตามพื้นผิวจนแห้งไม่ให้มีคราบก็โอเคแล้ว

3. เคลือบสีเป็นสม่ำเสมอ

แว๊กซ์หรือน้ำยาเคลือบสีรถ เป็นน้ำยาที่จะมีคุณสมบัติหลักๆคือ เป็นเสมือนฟิล์มสร้างเกราะป้องกันให้แก่สีรถ จากคราบสกปรก มลภาวะต่างๆ ซึ่งน้ำยาเคลือบสีรถเองก็มีหลายสูตรมาก ทั้งแบบน้ำ แบบครีม แตกต่างกันไปตามราคา สามารถเลือกใช้ได้ตามความต้องการ การเคลือบสีให้ดีควรเคลือบช่วงที่รถเราสะอาดที่สุด ก็คือช่วงหลังจากล้างรถและเช็ดแห้งเสร็จแล้ว จะได้ผลลัพธ์และมีประโยชน์มากที่สุด โดยการลงแว๊กซ์หรือเคลือบสีสม่ำเสมอ จะทำให้สีรถเรายังอยู่คงทน สวยเงางาม เป็นการ ดูแลรถยนต์ ให้เสมือนใหม่อยู่เสมอ ถึงแม้ว่าจะเจอกับสภาพอากาศ ฝุ่น มลพิษที่เลวร้าย ก็ไม่ทำให้สีเราด่างคล้ำแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม การเคลือบสีนั้นก็มีอายุการใช้งาน ควรขัดเคลือบสีให้สม่ำเสมอ อย่างน้อยเดือนละครั้ง

4. หลีกเลี่ยงการจอดรถ ตากแดด ตากฝน

เมื่อคุณไปจอดรถตามที่ต่างๆ สิ่งสำคัญเลยคือ ควรจอดรถในที่ร่ม เช่น อาคารสำหรับจอดรถ ไม่ควรจอดใต้ต้นไม้ จอดรถตากแดด ตากฝน โดยเฉพาะ จอดเป็นเวลานาน เพราะรังสี UV ในแสงแดดนั้น นอกจากจะอันตรายต่อผิวหนังของเราแล้ว ยังอันตรายต่อสีรถด้วยเหมือนกัน แสงแดดสามารถทำให้สีรถซีดลงได้ และทำให้คอนโซลต่างๆ ที่มีส่วนของพลาสติก ทนทานน้อยลง จึงควรจอดรถในที่สำหรับจอด และเป็นที่ร่ม รวมถึงการเคลือบสี จะช่วยปกป้องสีรถจากรังสี UV ได้ด้วย

ซึ่งหากเราดูแลรถยนต์ไม่ดี สีรถเราก็จะเริ่มเก่าลงอย่างเห็นได้ชัด และเก่าอย่างรวดเร็วไวกว่าปกติ มากกว่าคนที่ดูแลรถยนต์อย่างดี สีจะคงทนนานกว่าจะเก่าตามอายุการใช้งาน ถ้าหากสีเราเริ่มเก่าจริงๆ เราก็อาจจะต้องเข้าอู่เพื่อทำสีรถ หรือเริ่มซ่อมแซมสีรถที่เก่า ซึ่งวิธีการซ่อมแซมสีรถก็มีอยู่สองแบบ

 

รูปแบบการทำสีรถยนต์ใหม่

1. การทำสีเฉพาะจุด 

การทำสีเฉพาะจุด หรือการสาดสี เหมาะสมกับรถที่มีรอยไม่มาก หรือมีสีเพี๊ยนในบางจุด ซึ่งเป็นการทำเฉพาะจุด ราคาเริ่มต้นจึงไม่แพงมาก อยู่ที่ประมาณ 6,000 – 8,000 บาท เหมาะสำหรับคนที่ดูแลรถยนต์อย่างดี มีรอยน้อย ต้องการซ่อมแซมให้สวยงามเหมือนใหม่

2. การทำสีรถทั้งคัน

หากรถของเรามีรอยสีด่าง รอยการใช้งานเยอะมากพอสมควร ก็ควรทำสีรถใหม่ ซึ่งราคาเฉลี่ยจะเริ่มต้นที่ 30,000 บาทขึ้นไป เนื่องจากต้องใช้กระบวนการมากกมาย เช่น การลอกสี ปรับพื้นผิวเหล็ก พ่นเคลือบสนิม พ่นสีใหม่ วัดความหนาของสี ซึ่งแต่ละกระบวนการส่วนใหญ่ ทางอู่หรือร้านทำ จะต้องมีความชำนาญและมีมาตรฐาน จึงทำให้มีราคาสูง

ซึ่งหากต้องการทำเอง ก็สามารถทำได้ แต่ ArkcoThailand ก็แนะนำว่าควรจะมีเครื่องมือที่รองรับการทำงาน เช่น เครื่องพ่นสีไฟฟ้า Graco และเครื่องตรวจวัดความหนาสี Elcometer ที่จะทำให้งานของเรามีคุณภาพตามมาตรฐานมากยิ่งขึ้น

 

สรุป

การมีรถยนต์มาพร้อมกับภาระที่เราต้องเสียเงิน ดูแล และเอาใจใส่อยู่ตลอดเวลา  จะเห็นได้ว่าสีรถยนต์นั้นสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา หากไม่ ดูแลสีรถยนต์ เราควรจะมีเครื่องมือที่รองรับการทำงานสำหรับทำสีรถยนต์ใหม่ เช่น เครื่องตรวจวัดความหนาสี Elcometer และ เครื่องพ่นสีไฟฟ้า Graco ที่จะทำให้งานของเรามีคุณภาพตามมาตรฐานมากยิ่งขึ้น สำหรับวันนี้ ArkcoThailand ขอลาไปก่อน 

 

ArkcoThailand เป็นผู้จัดจำหน่าย เครื่องขัดเหล็ก Montipower เครื่องพ่นสีไฟฟ้า Graco ระบบ Airless เครื่องพ่นทราย เครื่องวัดความหนาสี Elcometer

และอีกมากมาย

________________________________________________________________

ท่านสามารถสั่งซื้ออุปกรณ์ เครื่องมือเตรียมผิวงาน เครื่องพ่นสี เครื่องพ่นทราย เครื่องวัดความหนาสี ได้ที่

TEL
086-351-3941,

Create at : 2022-11-09 07:37:41